วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

Good Paragraph Writing by Kru'Best


การเขียนย่อหน้า  ( Paragraph Writing)

การเขียนย่อหน้าคือ การนำเอาประโยคหลาย ๆ ประโยคมาเรียงต่อกันเป็นย่อหน้า การเขียนย่อหน้าควรคำนึงถึง

 ส่วนประกอบของย่อหน้า
-          ความสมบูรณ์ในเนื้อหาสาระ
-          ความสอดคล้องต่อเนื่องของเนื้อเรื่อง
-          ความถูกต้องตามหลักวิชาการ หลักตรรกะ และความมีเหตุผล

 ประเภทของย่อหน้า
 การแบ่งประเภทของย่อหน้าตามลักษณะการเขียน
       การให้ข้อสรุปก่อนนำไปสู่รายละเอียด (deduction)
       การให้รายละเอียดก่อนนำไปสู่ข้อสรุป (induction)
 การแบ่งประเภทของย่อหน้าตามจุดประสงค์ในการเขียน มีหลากหลาย อาทิ
       การเขียนเพื่อให้ข้อมูล
       การเขียนเพื่อโน้มน้าวใจ
       การเขียนเพื่อโต้แย้ง

 หน้าที่ของย่อหน้าประโยคในความเรียง
-           ย่อหน้านำเรื่อง (introductory paragraph)
-           ย่อหน้าเนื้อเรื่อง (body paragraph)
-           ย่อหน้าสรุป (concluding paragraph)

มาดู ตัวอย่างและ Outline ของย่อหน้าที่ดีกันครับ
ตัวอย่างที่ 1

Outline จากตัวอย่างที่ 1 นะครับ




ตัวอย่างที่ 2

Outline จากตัวอย่างที่ 2 นะครับ



ตัวอย่างที่ 3

Outline จากตัวอย่างที่ 3 นะครับ

อ่านทำความเข้าใจแล้ว อย่าลืมฝึกฝนกันเยอะๆนะครับ

Scanning for Details by Kru'Best


Scanning for Details


การหารายละเอียด (Scanning for Details)
       ในการอ่านโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน ข่าวจากหนังสือพิมพ์ บทความหรือข้อความโฆษณาต่าง ๆ หรือ สิ่งตีพิมพ์ที่พบอยู่ในชีวิตประจำวัน ประการแรกที่ผู้อ่านจะต้องกระทำได้แก่ การถามตัวเองว่าอ่านเกี่ยวกับเรื่องอะไร (Topic) และมีสาระสำคัญอะไรบ้าง (Main Idea) จากนั้นเมื่อผู้อ่านสนใจเรื่องราวดังกล่าว ก็มักจะต้องอ่านรายละเอียด (Details) ซึ่งรายละเอียดนี้จะมีประโยชน์หลายประการด้วยกัน กล่าวคือ
       1. การเข้าใจรายละเอียด จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจสาระสำคัญของเรื่องได้ชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
       2. หากผู้อ่านเข้าใจรายละเอียด ย่อมทำให้การอ่านข้อความนั้น ๆ ง่ายขึ้น
       3. รายละเอียดจะช่วยให้ผู้อ่านมองเห็นการจัดรูปแบบของข้อความว่าผู้เขียนนำเสนอในรูปแบบใด เช่น เรื่องตามลำดับเหตุการณ์ (order) เป็นขั้นตอน (step) หรือเป็นเหตุผลแก่กัน (Cause and effect) เป็นต้น
       4. ประการสำคัญที่สุด สำหรับผู้อ่านที่เป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็คือ ข้อสอบมักถามเกี่ยวกับรายละเอียดเป็นส่วนใหญ่

          Scanning ได้แก่ การอ่านข้อความอย่างรวดเร็ว เพื่อหาคำตอบที่ต้องการ โดยที่ผู้อ่านจะมุ่งเน้นไปที่การหาคำตอบของสิ่งที่สงสัยหรือคำถาม และสนใจคำหรือกลุ่มคำที่จะช่วยตอบคำถามนั้นได้โดยที่ผู้อ่านอาจจะละเลย ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้อง เมื่อผู้อ่านพบคำตอบที่ต้องการแล้วก็จะอ่านอย่างถี่ถ้วนระมัดระวังเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องนั้น ๆ
       ขั้นตอนในการอ่านด้วยวิธีการ Scanning มีดังต่อไปนี้
        1. ในการอ่านทั่วไปหรือการทำข้อสอบ ขอแนะนำให้ผู้อ่านได้อ่านคำถามเกี่ยวกับข้อความนั้น ๆ ก่อน เพื่อประหยัดเวลาและช่วยในการหาคำตอบได้รวดเร็วขึ้น
        2. อ่านข้อความอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพบคำหรือกลุ่มคำที่บอกเกี่ยวกับคำตอบที่ต้องการ ให้อ่านช้าลงและอ่านด้วยความรอบคอบระมัดระวัง
        3. พยายามหาคำหรือกลุ่มคำที่สำคัญ (key words and phrases) ที่จะช่วยให้ได้คำตอบหรือรายละเอียดที่ถูกต้อง
        4. หากเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ (multiple choices) ให้กำจัดคำตอบที่ผิดออก และเลือกคำตอบที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่
        5. ระวังคำถามเกี่ยวกับข้อความที่ไม่ถูกต้องหรือไม่มีในเรื่อง ผู้อ่านต้องเลือกคำตอบที่ไม่ถูกต้อง (ผิด) หรือคำตอบที่ไม่ได้กล่าวไว้ในเรื่องนั้น 

มาลองหากันดูนะครับ


Direction: Read the passages below and then answer the questions.

Passage 1
The university entrance examination results will be announced on May 19. To help candidates know the news as quickly as possible, the Bangkok Bank is offering a telephone service which students can call to find out if their names are on the list of successful candidates. The numbers are 0 2234 4272, 0 2235 0793 and 0 2235 3235.
1.      When will the university entrance examination results be announced?
…………………………………………………………………………………………………………………..
2.      What are the telephone numbers you can call to find out your results?
…………………………………………………………………………………………………………………..
         
          Passage 2
          Nantida, her sister, and her two friends went for a walk in the fields during a long vacation. They wanted to pick some flowers for their school nature exhibition. Nantida found some red roses while Linda, her sister, picked some daisies and some violet orchids. Sunanta picked a pretty flower. She thought it was jasmine, but Aree said, “That’s not a jasmine. It’s a little white rose.” Sunanta looked at the flower again. She looked at it carefully and said, “Yes, you’re right. This flower looks like a jasmine but its smell isn’t.”
1.      Who hasn’t got any flowers?
     ………………………………………………………………………………………………………………………..
2.      Who is Nantida’s sister?
………………………………………………………………………………………………………………………..
3.      What did Sunanta find?
………………………………………………………………………………………………………………………..

Was/Were by Kru'Best


Was/Were
คำว่า was, were คือ ช่องที่ 2 ของ verb to be (is, am, are) จะว่าไปแล้วก็คือการแปลงร่างครับ เป็นสิ่งที่สร้างความปวดหัวให้กับนักเรียน
was อ่านว่า เวิส มาจาก is,am
were อ่านว่า เวอ มาจาก are

ทั้งสองคำนี้หนา แปลว่า เป็น อยู่ คือ แต่ เป็นเรื่องราวในอดีต ไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน
โครงสร้าง
I,He, She, It, A cat
was
tall.
You, We, They, Cats
were
tall.
*** ข้อควรจำ  I ใช้ was ซึ่งเป็น Tense เดียวที่ใช้กริยาร่วมกับประธานเอกพจน์ นอกนั้นใช้กับประธานพหูพจน์ครับ จำไว้ให้ดีเชียว

การย่อรูป
was not เวิส น็อท >> wasn’t วอสเซินท  แปลว่า ไม่
were not เวอ น็อท >> weren’t  เวินท   แปลว่า ไม่

เนื่องจากว่ามันเป็นช่องที่ 2 ของ is am are ดังนั้นหลักการใช้ก็จะเหมือนกันทุกประการ ต่างกันแค่ใช้เล่าเรื่องราวในอดีต แค่นั้นเอง เช่น
I am a doctor. ผมเป็นหมอ (ไปที่โรงพยาบาลก็เจอผมเลย ผมทำงานที่นั่น)
I was a doctor. ผม (เคย) เป็นหมอ (ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว)
The weather is fine today. วันนี้อากาศดี (ท้องฟ้าแจ่มใส น่าออกไปเที่ยว)
The weather was fine yesterday. เมื่อวานอากาศดี (แสดงว่าวันนี้อากาศครึ้มทั้งวัน)
We are at school. เราอยู่ที่โรงเรียน (กำลังเรียนอยู่ โรงเรียนยังไม่เลิก)
We were at school yesterday. เมื่อวานพวกเราอยู่ที่โรงเรียน (เมื่อวานวันศุกร์ไง วันนี้วันเสาร์ไม่ต้องไปเรียน)

Was, Were  ใน Tense ต่างๆ
1. Past Simple Tense   
was, were  แปลว่า เป็น อยู่ คือ  (ประธาน+ was,were + นาม
was a student. ผม (เคย) เป็นนักเรียน (student = นาม)
We were teachers. . พวกเราเคยเป็นครู (teachers = นาม)
แต่บางครั้ง was, were ไม่ต้องแปล  (ประธาน+ was, were, + คุณศัพท์
was fine. ผม(เคย)สบายดี (fine = คุณศัพท์)
She was short. หล่อน (เคย)เตี้ย ( short= คุณศัพท์)
They were smart. พวกเขา(เคย)เทห์ ( smart=คุณศัพท์)

2. Past Continuous Tense (เรียนรู้เต็มๆในเรื่อง Past continuous Tense)
was, were อย่าแยกแปล ให้แปลควบกับคำกริยาที่เติม ing (แปลว่า กำลัง…)
was eating. ผมกำลังกิน
He was running. เขากำลังวิ่ง
We were  swimming. พวกเรากำลังว่ายน้ำ
เนื่องจากว่ามันเป็นช่องที่ 2 ของ is am are และหลักการใช้ในประโยคบอกเล่า คำถาม ปฏิเสธก็เหมือนกันทุกประการ จึงไม่ขออธิบายขยายความมาก ถ้านักเรียนศึกษา is am are เข้าใจดีแล้ว ก็ให้เทียบเคียงกันเอาก็จะเขาใจดีนะครับ ดังนั้นจึงขอยกตัวอย่างสักเล็กน้อยพอเป็นพิธีแล้วกัน

ประโยคบอกเล่า
He was a student last year but he became a teacher last month.
เขา (เคย) เป็นนักเรียนเมื่อปีที่แล้ว แต่เขากลายเป็นครูเมื่อเดือนที่แล้ว

She’s was angry because she didn’t see you at the party.
หล่อนโกรธเพราะหล่อนไม่เห็นคุณที่งานปาร์ตี้

They were at school yesterday. They studied math all day.
พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนเมื่อวานนี้ พวกเขาเรียนคณิตทั้งวัน

ประโยคคำถาม
Was he a student last year? ปีก่อนเขาเป็นนักเรียนใช่
Yes, he was. / No, he wasn’t. ใช่ / ไม่ใช่
Wasn’t she angry?  หล่อนไม่โกรธใช่ไหม
Yes, she was. / No, she wasn’t. ใช่ / ไม่ใช่
Were they at school yesterday?พวกเขาอยู่ที่โรงเรียนใช่ไหมเมื่อวานนี้
Yes, they were. / No, they weren’t. ใช่ / ไม่ใช่

ประโยคปฏิเสธ
He wasn’t a student last.
เขา ไม่(เคย) เป็นนักเรียนเมื่อปีที่แล้ว
She’s wasn’t angry.
หล่อนไม่โกรธ
They weren’t at school yesterday.
พวกเขาไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนเมื่อวานนี้

ประโยคคำถาม Wh-
Who was in your room yesterday? ใครอยู่ในห้องคุณเมื่อวานนี้
It was my brother. น้องชายฉันเอง
Where were you last week? สัปดาที่แล้วคุณอยู่ที่ไหน
I was in Rome. ฉันอยู่ในกรุงโรม
How was your brother yesterday. พี่ชายคุณเป็นอย่างไรบ้างเมื่อวานนี้
He was not fine. He has a cold. เขาไม่สบาย เขาเป็นหวัด


Exercise: Was/Were

Direction: Complete the sentences with was / were

1. How many people __________ at your house last weekend?
2. The book wasn´t difficult It __________ easy.
3. Those __________ my best jeans.
4. Dinosaurs __________ prehistoric animals.
5. __________ your friends at school yesterday?
6. Sandra __________ not at school yesterday.
7. You __________ nasty to me!
8. _________ your grandparents designers.
9. John and I __________ in the garden.
10. __________ your parents in the restaurant? Yes, they __________ .
11. My grandmother __________ a nurse. She wasn´t a doctor.
12. I __________ thin when I was 6 years old.
13. When I __________ younger, I played with teddy bears.
14. We __________ away on vacation last month.
15. __________ you at the cinema last night?
16. Ten years ago, I __________ a baby.
17. __________ the exam difficult?
18. The film __________ (not) exciting. It was boring.
19. __________ there many people at the party?
20. __________ the girls in the park? No, they __________ .
21. Her name wasn´t Kate. It __________ Isabel.
22. Paco wasn´t happy. He __________ sad.
23. __________ the boys at the football game? Yes, they __________ .
24. The books __________ (not) on the shelf. They were in the bookcase.
25. __________ Tom at a concert? Yes, he __________ .